TH
โชห่วยไทย
สนับสนุนให้คุณมีรายได้

เรายินดีให้คำปรึกษาและเปิดการสอนสำหรับเปิดบริการร้านโชห่วย

“คนละครึ่ง” เฟส 2 เพิ่มอีก 5 ล้านคน ครม.เปิดใช้สิทธิ์ 16 ธ.ค. รับ 3,500 บาท

ครม.เห็นชอบคนละครึ่ง เฟสสอง เพิ่ม 5 ล้านคน ใครเล็งใช้สิทธิ์ลงทะเบียนได้ 16 ธ.ค.นี้ตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพื่อรับ 3,500 บาท ส่วนรายเดิมที่ได้สิทธิ์จากเฟสแรก ได้เงินเพิ่มอีก 500 บาท ขณะที่ผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้คนละ 1,500 บาท ใน 3 เดือน รวมสองเฟสดันจีดีพีเพิ่ม 0.32%

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม.เห็นชอบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ “คนละครึ่ง” เฟส 2 เริ่ม 1 ม.ค.-31 มี.ค.64 ซึ่งกระทรวงการคลังวางแผนให้ผู้รับสิทธิ์รายใหม่ลงทะเบียนได้ในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ตั้งแต่ 06.00-23.00 น. ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com และยืนยันตัวตนผ่านระบบ g-Wallet แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพื่อรับสิทธิ์ตามโครงการ สำหรับผู้รับสิทธิ์เก่าใหม่ 10 ล้านคน จะได้คนละ 3,500 บาท โดยให้ผู้รับสิทธิ์ในเฟสแรก ที่ได้รับไปแล้ว 3,000 บาท ได้รับเพิ่มอีก 500 บาท

“ประชาชนที่ได้รับสิทธ์ิในเฟสสอง และไม่เริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับจากวันที่ได้รับ SMS จะถูกตัดสิทธิและไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก โดยสิทธิ์ที่ถูกตัดอาจนำไปเปิดให้ลงทะเบียนใหม่ และประชาชนที่ได้ใช้สิทธ์ิตามโครงการคนละครึ่ง จะไม่สามารถใช้สิทธิ์ตามมาตรการ ช้อปดีมีคืนได้ ด้านผู้ประกอบการร้านอาหาร เครื่องดื่ม ร้านค้าทั่วไป ต้องเป็นผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่ใช่นิติบุคคล หรือเป็นร้านค้าของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมือง จะต้องไม่ใช่ร้านสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งร้านค้าสามารถลงทะเบียนได้ตลอดระยะเวลาโครงการผ่านเว็บ www.คนละครึ่ง.com หรือลงทะเบียนผ่านทางสาขาของธนาคารกรุงไทย”

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 จะทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 45,000 ล้านบาท ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 0.14% แต่เมื่อรวมทั้งสองระยะเงินหมุนเวียนในระบบจะสูงถึง 105,000 ล้านบาท GDP จะขยายตัว 0.32% ครม.ยังช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยให้วงเงินค่าซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคเพิ่ม 500 บาทต่อคนต่อเดือนอีก 3 เดือน ตั้งแต่ ม.ค.-มี.ค.64 ส่วนลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่เกิน 13.75 ล้านคน วงเงิน ไม่เกิน 20,635 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือ เยียวยากลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต่อเนื่องอีกให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น กระตุ้นการใช้จ่ายในท้องถิ่นช่วยผู้ประกอบการในพื้นที่ถือเป็นเศรษฐกิจฐานรากที่สำคัญ

นอกจากนี้ ครม.เห็นชอบการปรับปรุงโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยเพิ่มจำนวนห้องพักอีก 1 ล้านคืน จากเดิม 5 ล้านคืน เป็น 6 ล้านคืน จากเดิมจองที่พักได้ไม่เกิน 10 คืน ต่อ 1 สิทธิ์ ก็จองที่พักเพิ่มได้อีก 5 คืน เป็น 15 คืน ต่อ 1 สิทธิ์ การจองโรงแรมที่พัก จากช่วงเวลา 06.00-21.00 น. เป็นช่วงเวลา 06.00-24.00 น. และขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการ จากสิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค.64 เป็นวันที่ 30 เม.ย.64 รวมทั้ง สนับสนุนค่าเครื่องบินจาก 2,000 บาท เป็น 3,000 บาท ใน 7 จังหวัดท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สงขลา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ และเชียงราย ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด พร้อมปรับลดกรอบวงเงินโครงการเหลือ 15,000 ล้านบาท จาก 20,000 ล้านบาท เนื่องจากมีคนใช้สิทธิ์โรงแรมไปแล้ว กว่า 4 ล้านสิทธิ์ มีการเบิกจ่ายเงินกู้ไปเพียง 4,195 ล้านบาท คิดเป็น 20.97% ของวงเงิน ส่วนโครงการเที่ยวไทยวัยเก๋าอนุมัติให้ดำเนินการอยู่ภายใต้ “เราเที่ยวด้วยกัน” นั้น ยังไม่มีเสนอเข้ามาใน ครม.ซึ่งคงต้องรอให้คณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้พิจารณาก่อน

ส่วนหลักเกณฑ์การลาสำหรับข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง พนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่ลงทะเบียนและใช้สิทธิ์เป็นวันลา 2 วันโดยกำหนดให้แสดงหลักฐานประกอบการลา หลักฐานแสดงการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ หลักฐานการเช็กอินและเช็กเอาต์โรงแรงที่พักตามโครงการ

นอกจากกิจกรรมกระตุ้นการเดินทางในรูปแบบคอนซูเมอร์แฟร์ 3 ครั้ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ ภาคเหนือ และภาคใต้ พร้อมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการเข้าร่วมโครงการควบคู่กับมาตรการสาธารณสุขต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยว งบ 9 ล้านบาท ครม. ยังเห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียด “โครงการกำลังใจ” ให้บริษัทนำเที่ยวที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ โดยใช้หลักเกณฑ์เดิมคือต้องเป็นบริษัทนำเที่ยวที่จดทะเบียนถูกต้องตาม พ.ร.บ.และจดทะเบียนก่อนวันที่ 1 ม.ค.63 รวมบริษัทนำเที่ยวที่กรอกรายการนำเที่ยวไม่ครบ สามารถกรอกเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ หากกรอกครบ 15 รายการแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขเพิ่มเติมได้อีก

โครงการเราเที่ยวด้วยกันที่ใช้วงเงินไปเพียง 20.97% เพราะรัฐบาลให้สิทธิ์การร่วมจ่ายค่าที่พัก 40% สูงสุด 3,000 บาทต่อคืน สามารถพักห้องพักในราคา 7,500 บาท ต่อคืน แต่ในการใช้บริการจริง ประชาชนใช้สิทธิ์ห้องพักมีค่าเฉลี่ยการจองอยู่ที่คืนละ 2,784 บาทเท่านั้น ทำให้เงินร่วมจ่ายของรัฐบาลน้อยลงกว่าที่รัฐบาลเตรียมวงเงินไว้เยอะ เหตุผลหนึ่งคนจองห้องพักราคานี้ มีทั้งไม่ต้องการใช้เงินสูงมากและโรงแรมระดับ 4-5 ดาวลดราคาลงมาเพื่อให้ลูกค้าเข้าพักได้ง่าย เพราะต้องการให้ธุรกิจมีสภาพคล่องในช่วงที่ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ.

ขอขอบคุรเนื้อหาและภาพข่าวจาก

thairath.co.th