TH
โชห่วยไทย
สนับสนุนให้คุณมีรายได้

เรายินดีให้คำปรึกษาและเปิดการสอนสำหรับเปิดบริการร้านโชห่วย

ตรุษจีนปีนี้กร่อยสนิท! เงินสะพัดวูบ 1.2 หมื่นล้าน-ท่องเที่ยวหด

ตรุษจีนปีนี้สุดกร่อย เงินสะพัดแค่ 4.5 หมื่นล้านบาทติดลบ 21.85% เทียบปี 63 ที่มียอดใช้จ่าย 5.7 หมื่นล้านบาท ลดลงต่ำสุดรอบ 13 ปี เหตุเศรษฐกิจแย่ รายได้ลด ตกงาน โควิดระบาด หวังผลมาตรการรัฐกระตุ้นใช้จ่าย–เศรษฐกิจ ขณะที่รายได้ท่องเที่ยวตรุษจีนวูบเหลือ 602 ล้านบาท จากปี 63 ที่ 8,641 ล้านบาท

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ ที่ปรึกษาสภามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2564 ที่สำรวจจากประชาชน 1,215 ตัวอย่าง วันที่ 25 ม.ค.-3 ก.พ.64 ว่า ปีนี้มีมูลค่าการใช้จ่ายอยู่ที่ 44,939 ล้านบาท ลดลง 21.85% เทียบกับปี 63 ที่มีมูลค่า 57,639 ล้านบาท ลดลง 1.30% ถือว่า ลดลงมากสุดเป็นประวัติการณ์ หรือต่ำสุดในรอบ 13 ปีนับตั้งแต่มีการสำรวจมาตั้งแต่ปี 52 “มูลค่าใช้จ่ายปี 63 ที่ติดลบ 1.3% จากปี 62 ก็ว่าน่าตกใจแล้ว พอมาเจอปี 64 ที่ลบมากถึง 21.85% หายไป 12,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 63 ยิ่งน่าตกใจมาก เพราะคนตอบว่า เศรษฐกิจไม่ดี รายได้ลดลง และผลกระทบของโควิด ทำให้ใช้จ่ายลดลง”

สำหรับมูลค่าใช้จ่ายปี 64 ที่ลดลงนั้น ผู้ตอบ 42.2% ตอบใช้จ่ายลดลง เมื่อเทียบปี 63 เพราะเศรษฐกิจแย่ลง รายได้ลด ลดค่าใช้จ่าย การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นหนี้เพิ่ม ของแพง ตกงาน ส่งผลให้ปริมาณการซื้อสินค้าลดลง ส่วนอีก 33.2% ใช้จ่ายไม่เปลี่ยนแปลง และมีเพียง 24.6% ที่ใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพราะราคาสินค้าแพงขึ้น รายได้-โบนัสเพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ปีนี้ผู้ตอบ 1.8% นำเงินช่วยเหลือจากภาครัฐมาใช้จ่ายในช่วงตรุษจีน จากปี 63 ที่มีเพียง 0.1% ดังนั้น การที่ภาครัฐมีมาตรการช่วยเหลือ สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้างในช่วงตรุษจีน

ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า บรรยากาศตรุษจีนปีนี้กร่อย เพราะประชาชนใช้จ่ายลดลงมากถึง 12,000 ล้านบาท ลดลงมากสุดในรอบ 13 ปี เพราะเศรษฐกิจไม่ดี การแพร่ระบาดของโควิด รายได้ลด แต่เชื่อว่าการใช้จ่ายจะเริ่มดีขึ้นช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้ ที่รัฐเริ่มอัดฉีดเงินเข้าระบบจากมาตรการเราชนะ เรารักกัน แต่ยังไม่มีผลชดเชยรายได้ที่หายไปจากช่วงตรุษจีนที่ 12,000 ล้านบาทได้ คงต้องรอดูมาตรการกระตุ้นของรัฐในระยะต่อไปว่าจะมีผลกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียงไร

มูลค่าใช้จ่ายตรุษจีนที่หายไป 12,000 ล้านบาท ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) หายไป 0.05-0.07% แต่ถ้ารัฐอัดฉีดเงินเราชนะ เรารักกันเข้ามาในช่วงปลายเดือนนี้ จะมีผลกระตุ้นการใช้จ่ายได้ คาดว่าเศรษฐกิจจะเริ่มดีขึ้นไตรมาส 2 เป็นต้นไป และถ้ารัฐยังมีมาตรการกระตุ้นต่อเนื่อง รวมถึงมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้บ้าง 4-6 ล้านคน น่าจะทำให้เศรษฐกิจปีนี้โตได้กว่า 3% แต่ถ้ายังไม่มีเข้ามาเลยก็อาจโตต่ำกว่า 3% ได้”

ส่วนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้า โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยกำชับผู้ค้าไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคาขายเด็ดขาด หากพบผู้ค้ารายใดเอาเปรียบ ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่

ขณะที่นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 64 ของวันหยุดยาวกรณีพิเศษวันที่ 12-14 ก.พ.64 ว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวไม่คึกคัก โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 15% มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 235,000 คน/ครั้ง ไม่มีชาวต่างประเทศ มีรายได้ 602 ล้านบาท จากตรุษจีนปี 63 ที่มีรายได้จากการเที่ยวของคนไทย 3,528 ล้านบาท และเมื่อรวมรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้ตรุษจีนปี 63 มีรายได้รวม 8,641 ล้านบาท.

 

ขอขอบคุณเนื้อหาและภาพข่าวจาก


www.thairath.co.th