กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เผยตัวเลขจำนวนการตรวจโควิด-19 (COVID-19) ในห้องปฏิบัติการทั้งภาครัฐและเอกชน ปัจจุบันตรวจไปแล้วกว่า 3 ล้านครั้ง พบผลบวก 29,685 คน คิดเป็น 1% ของอัตราการพบผู้ติดเชื้อจากผู้เข้ารับการตรวจทั้งหมด โดยห้องปฏิบัติการที่ยืนยันผล เพื่อตรวจสอบเพื่อหาเชื้อ SARS-CoV-2 นั้น ต้องได้รับการทดสอบความชำนาญทางห้องปฏิบัติการเสียก่อน ปัจจุบันในประเทศไทยมีห้องแล็บที่ได้รับการรับรอง 275 แห่ง
1. เข้าเว็บไซต์ service.dmsc.moph.go.th/labscovid19
2. พิมพ์ชื่อจังหวัดที่ต้องการค้นหาเช่น เมื่อต้องการทราบว่า ตรวจโควิด เชียงใหม่ มีที่ไหนบ้าง ก็พิมพ์คำว่า “เชียงใหม่” ในช่อง Search แล้วกด Enter
3. รายชื่อสถานที่และหน่วยงานตรวจโควิด-19 ที่ได้รับการรับรอง จะขึ้นปรากฏตามลำดับเลขที่
ตัวอย่างสถานที่ตรวจโควิดเชียงใหม่ ภาครัฐ และเอกชน
ตรวจโควิดฟรีในปี 64 ก็ยังอิงหลักเกณฑ์สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยผู้เข้าขอรับการตรวจโควิดฟรี จะต้องเข้าเกณฑ์เสี่ยงตามเงื่อนไขกรมควบคุมโรค ดังนี้
1. เดินทางไปยังสถานพยาบาล เพื่อประเมินผลเบื้องต้นก่อนเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19
2. ลงทะเบียนประวัติ
3. ถอดหน้ากากอนามัย เงยหน้า อ้าปาก ปฏิบัติตามที่เจ้าหน้าที่แจ้ง
4. สวมหน้ากากอนามัย เดินทางกลับบ้านรอผล
5. ระหว่างรอผล ควรกักตัวอยู่ที่พัก งดการเดินทางพบปะผู้อื่น
ผู้ที่ไม่เข้าเกณฑ์เสี่ยงตามเงื่อนไขของกรมควบคุมโรค หากต้องการตรวจโควิด-19 กับโรงพยาบาลรัฐ หรือเอกชน มีค่าบริการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ดังนี้
- โรงพยาบาลรัฐ ค่าตรวจเริ่มต้น 1,500 บาท
- โรงพยาบาลเอกชน ค่าตรวจเริ่มต้น 3,000 บาท
ส่วนค่าบริการ 1,000-1,500 บาท นั้น เป็นวิธีการตรวจหาภูมิคุ้มกัน IgG และ IgM Covid-19 ซึ่งเป็นกระบวนการเจาะเลือดตรวจสอบภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ถือเป็นการตรวจสอบเบื้องต้น ซึ่งหากพบผลบวก ก็จะได้รับการตรวจ RT-PCR ต่อไป
รถตรวจโควิดเคลื่อนที่ เป็นรถที่บรรทุกเครื่องมือเก็บตัวอย่าง พร้อมเจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างด้วยวิธี SWAB (ใช้สำลีพันก้านเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูก) จากผู้เข้ารับการตรวจ เพื่อส่งต่อให้กับห้องปฏิบัติการต่อไป หากได้รับการ “ยืนยันพบเชื้อโควิด-19” จะได้รับการติดให้เข้ารับการรักษาตัวในสถานพยาบาลที่กำหนด
โรงพยาบาลเอกชนบางแห่งเปิดให้บริการตรวจโควิด ไดร์ฟทรู (Drive Thru) โดยผู้ขอเข้ารับการตรวจไม่ต้องลงจากรถ แต่ต้องลงทะเบียนประวัติให้ชัดเจน พร้อมชำระเงินก่อนขับรถผ่านจุดตรวจ SWAB เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการ RT PCR เช่นกัน รอฟังผลการตรวจโควิดได้ที่บ้าน รายชื่อโรงพยาบาลที่เปิดให้บริการตรวจโควิด Drive Thru มีดังนี้
1. โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต สอบถามราคาได้ที่โรงพยาบาล
2. โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ราคา 3,800 บาท
3. โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ราคา 2,500 บาท
4. โรงพยาบาลรามคำแหง ราคา 3,500 บาท
5. โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 ราคา 3,000 บาท
6. โรงพยาบาลธนบุรี ราคา 6,500 บาท
7. โรงพยาบาลบางโพ ราคา 3,000 บาท
8. โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา ราคาสอบถามโรงพยาบาล
อย่างไรก็ดี การตรวจโควิดไดร์ฟทรู (Drive Thru) เป็นวิธีการตรวจที่สะดวกต่อผู้ที่ต้องการลดการพบปะกับผู้อื่นระหว่างรอตรวจ แต่หากต้องการขอใบรับรองแพทย์ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากราคาข้างต้น
รถตรวจโควิดเคลื่อนที่ เป็นรถที่บรรทุกเครื่องมือเก็บตัวอย่าง พร้อมเจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างด้วยวิธี SWAB (ใช้สำลีพันก้านเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูก) จากผู้เข้ารับการตรวจ เพื่อส่งต่อให้กับห้องปฏิบัติการต่อไป หากได้รับการ “ยืนยันพบเชื้อโควิด-19” จะได้รับการติดให้เข้ารับการรักษาตัวในสถานพยาบาลที่กำหนด
เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล กรุงเทพมหานครร่วมกับ สปสช. เผย 8 สถานพยาบาลที่ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคอื่นๆ ที่แพทย์เห็นสมควรว่าเจาะเลือดที่บ้าน และรับยาผ่านโรงพยาบาลใกล้บ้าน ด้วยคุณภาพมาตรฐานการรักษาเทียบเท่ากับการเดินทางไปโรงพยาบาลผ่านการตรวจ Telemedicine ผ่านการสื่อสารระหว่างแพทย์และผู้ป่วยผ่านระบบ Video Call เพื่อลดขั้นตอนการรอพบแพทย์จนเกิดความแออัดในโรงพยาบาล โรงพยาบาลนำร่องโครงการนี้ ได้แก่
ห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองให้ตรวจโควิด-19 คือห้องแล็บที่ใช้ชุดน้ำยาตรวจด้วยวิธี RT-PCR เพราะมีความแม่นยำในการตรวจหาเชื้อสูง ขั้นตอนการตรวจในห้องแล็บใช้เวลาประมาณ 24-48 ชั่วโมง แต่ระยะเวลาทราบผลการตรวจโควิด-19 ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผู้รับการตรวจในโรงพยาบาล ณ ช่วงเวลานั้น ส่วนใหญ่ทราบผล 1 - 3 วัน ด้วยวิธีการรอรับผลตรวจผ่าน SMS, อีเมล หรือเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งไว้
สรุปจำนวนตัวอย่างที่ได้รับการตรวจ COVID-19 ด้วย RT-PCR ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มให้บริการจนถึงวันที่ 21 มี.ค. 64 จำนวน 3,145,130 ตัวอย่าง พบว่าภาครัฐและเอกชนมีสัดส่วนการตรวจใกล้เคียงกัน โดยห้องปฏิบัติการเขตสุขภาพที่ 13 ได้รับตัวอย่างเข้าตรวจมากที่สุด จำนวน 1,272,229 ตัวอย่าง เนื่องจากประกอบด้วยสถานพยาบาลที่มีผู้ใช้บริการมาก เช่น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง, คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล, โรงพยาบาลเด็กแห่งชาติมหาราชินี, คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดร, สถาบันบำราศนราดูร,คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นต้น
ขอขอบคุณเนื้อหาและภาพข่าวจาก
www.thairath.co.th