โดยช่วงก่อนโควิดมียอดทรานแซกชั่นต่อวันอยู่ที่ 11.7 ล้านครั้ง ส่วนหลังโควิดอยู่ที่ 10.9 ล้านครั้ง
นอกจากนี้ ผู้บริโภคยัง “Trade Down” หรือทั้งซื้อสินค้าในจำนวนที่น้อยลง และเลือกซื้อสินค้าในราคาที่ถูกลงในกลุ่มสินค้าดังกล่าวถึง 52% (อ้างอิงคันทาร์)
ส่งผลให้ปีที่ผ่านมาตลาดขนมขบเคี้ยวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
อ้างอิงข้อมูลนีลเส็นพบว่า ปีที่ผ่านมาตลาดขนมขบเคี้ยวมีมูลค่า 33,731 ล้านบาท ลดลง 8.4% จากปี 2562 ที่เติบโต 5.4% มีมูลค่าตลาด 36,836 ล้านบาท
หากเจาะลึกลงไปเป็นรายเซกเมนต์กลุ่มที่ครองส่วนแบ่งขนมขบเคี้ยวมากที่สุดคือ “มันฝรั่ง”
ที่ก็โดนผลกระทบจากโควิด-19 เช่นกัน
ปีที่ผ่านมาตลาดขนมขบเคี้ยวประเภทมันฝรั่งเติบโตลดลงราว 2-3%
ผู้นำในตลาดมันฝรั่งที่ครองส่วนแบ่งเกินครึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคือ “เลย์” ที่เข้ามาทำตลาดในไทยมาแล้ว 25 ปี
ปีที่ 26 ของเลย์เดินไปทิศทางไหน
“เลย์” เจ้าตลาดมันฝรั่ง ที่ปีนี้ทำการตลาดตั้งแต่ต้นปี ไล่เรียงจากการปิดตัวซองรูปแบบใหม่พร้อม 4 พรีเซนเตอร์ เป๊ก-ผลิตโชค, บิวกิ้น-พุฒิพงศ์, พีพี-กฤษฏ์ และ แพรวา-ณิชาภัทร ตอกย้ำความสนุกของแก๊งเพื่อน
ถัดมากับล่าสุดที่เลย์เปิดตัวแบรนด์น้องใหม่อย่าง “เลย์แมกซ์” ที่ ชลกร อภิชาติธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ธุรกิจอาหารและขนมขบเคี้ยว บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เล่าให้ฟังว่า ที่ผ่านเราเห็นเทรนด์ผู้บริโภคอย่างน่าสนใจ จากการกินที่บ้าน ใช้ชีวิตและทำงานที่บ้าน
ผู้บริโภคมักแชร์หรือแบ่งปันคอนเทนต์ต่าง ๆ โดยเฉพาะมิวสิก
บวกกับการแข่งขันในตลาดมันฝรั่งทอดที่รุนแรง ซึ่ง ‘รสชาติ’ใหม่ ๆ คือสิ่งสำคัญที่ใช้แข่งขันกัน เพราะพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
จึงเป็นที่มาในการออก “เลย์แมกซ์” ที่มีจุดต่างจากเลย์ปกติคือเรื่องของรสชาติ และกลิ่นหอมที่เข้มข้นกว่าเดิม เทกเจอร์ของรอยหยักของมันฝรั่งที่ชัดเจนมากขึ้น
แล้วการทำตลาดของ ‘เลย์แมกซ์’ เป็นอย่างไร
ชลกรบอกว่า จากที่เราเห็นเทรนด์ด้านคอนเทนต์ในเรื่องเพลงที่เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์การทำตลาดคือการใช้ “Music Marketing” เป็นตัวไดรฟ์
และมีพรีเซนเตอร์ 2 คนแรกคือ “ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี” และ “มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล”
การทำมิวสิกมาร์เก็ตติ้งในครั้งนี้แม้เลย์จะเคยทำมาก่อนแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นการทำแบบครบทุกช่องทางครั้งแรก
และตอกย้ำภาพจำของเลย์คือเรื่องของความสนุก มีการส่งแคมเปญชาเลนจ์อย่าง #DanceToTheMax ใน TikTok ได้ 130 ล้านวิว ขึ้นอันดับ 1 ในไทย
จากการที่เลย์แมกซ์ใช้ทั้งมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง และใช้พรีเซนเตอร์อย่างไบรท์ และมิลลิ นั้น Marketeer เชื่อว่า เลย์แมกซ์ต้องการเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่มากขึ้น และใช้พลังของแฟนคลับในการเพิ่มยอดขายไม่มากก็น้อย
รวมทั้งเป็นการกระตุ้นตลาดให้มีสีสัน จากที่มีแต่รสชาติเดิม ๆ
สำหรับกลุ่มเป้าหมาย แม้เลย์จะเป็นขนมขบเคี้ยวที่มีทุกช่วงไว แต่เลย์แมกซ์จะเน้นไปกับกลุ่ม GenZ ที่ไม่ได้หมายถึงแค่อายุยังน้อย ๆ แต่ยังรวมถึงคนที่ Young at heart ที่พร้อมจะลองอะไรใหม่ ๆ ตลอดเวลา
เลย์แมกซ์ปัจจุบันออกมาด้วยกัน 3 รสชาติ คือ รสพริกปีศาจ รสบาร์บีคิว พริกแซ่บซี้ด และ รสกูร์เมต์ ซาวครีมและหัวหอม
ทั้งรูปแบบซอง (แผ่นหยัก) และรูปแบบกระป๋อง (แผ่นเรียบ)
ที่ต้องรอดูว่ามิวสิกมาร์เก็ตติ้งในครั้งนี้จะทำให้ ‘เลย์แมกซ์’ เข้าไปอยู๋กับผู้บริโภคมากแค่ไหน
และจะเบียดเข้าไปติดทอปรสชาติขายดีของเลย์หรือไม่ต้องรอดู
–
ขอขอบคุณเนื้อหาและภาพข่าวจาก
marketeeronline.co