ผู้ประกันตน
ม. 33-39 และ ม.40 รัฐเคาะวันจ่ายเงินแล้ว นายจ้างสูงสุดแห่งละ 6 แสนบาท
ลูกจ้าง 10 จังหวัด รอรับโอน 2,500 บาท
วันที่ 6 สิงหาคม 64
วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผย
“ประชาชาติธุรกิจ” ครม.เห็นชอบขั้นตอนการดำเนินงานการจ่ายเงินเยียวยา
กลุ่มประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ ใน 10 จังหวัด ใน 9
กิจจการ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร
นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา จะมีการโอนเงินเข้าบัญชีนายจ้าง ลูกจ้าง
ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ วันที่ 6 สิงหาคม 2564 ทั้งนี้
ได้มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
พิจารณาการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ
พื้นที่ควบคุมสูงสุด 10 จังหวัดเรียบร้อยแล้ว
โดยให้เร่งลงทะเบียนกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการที่ยังไม่อยู่ในระบบประกันสังคม
เพื่อให้ความช่วยเหลือ
ส่วน 3 จังหวัด ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และอยุธยา ที่มีการประกาศเพิ่มเติม
เพิ่มเติม สภาพัฒน์ จะนำเข้าพิจารณาในคณะอนุกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ภายในสัปดาห์นี้
และนำเข้า ครม. ในวันอังคารที่ 27 กรกฏาคม 2564 รายละเอียดเพิ่มเติม
ในการจ่ายเงินชดเชยผู้ที่อยู่ในมาตรา 33
ที่ได้รับผลกระทบจากประกาศ-คำสั่งของรัฐบาล ผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33
ได้รับการชดเชย 2,500 บาทด้วย และลูกจ้างแรงงาน มาตรา 33 ที่ตกงาน จ่าย 50
เปอร์เซ็นต์ของค่าจ้างรายวัน สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท และจ่ายสมทบให้สัญชาติไทยอีก
2,500 บาทต่อคน ไม่เกิน 10,000 บาท
โดยจะโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชน ในวันที่ 6 สิงหาคม 2564
ส่วนการจัดสรรให้นายจ้าง ที่ได้จดทะเบียนพาณิชย์ไว้ถูกต้องครบถ้วนแล้ว
9 กิจการ จะดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชน ให้แก่
นายจ้างที่อยู่ในเขต 10 จังหวัดควบคุมสูงสุดหรือสีแดงเข้ม โดยนายจ้างได้สูงสุด 6
แสนบาท (จากลูกจ้างไม่เกิน 200 คน ๆ ละ 3,000
บาท) ในวันที่ 6 สิงหาคม 2564 เช่นเดียวกัน
สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และ 40
ซึ่งเป็นกลุ่มฟรีแลนซ์และอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ครั้งล่าสุดนี้
รัฐบาลจะเยียวยา 5,000 บาท โดยผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้ประกันตนในมาตรา 39 และ 40
ก่อนวันที่ 28 มิ.ย. 2564 ให้รีบสมัครภายในวันที่ 30 ก.ค. 2564
เพื่อสำนักงานประกันสังคมจะได้ส่งข้อมูล และโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ ในวันที่ 6
สิงหาคม 2564
ขณะที่นายจ้างผู้ประกอบการ ในระบบ “ถุงเงิน” 5 หมวด
ให้ขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนมาตรา 33 ภายในเดือน ก.ค. นี้
เพื่อรับเงินช่วยเหลือตามผู้ประกอบการในระบบถุงเงิน 5 หมวด
ภายใต้โครงการคนละครึ่งและโครงการเราชนะ
ที่ไม่มีลูกจ้างให้ขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนมาตรา 40 ภายในเดือน ก.ค. นี้
เพื่อรับค่าช่วยเหลือ 5,000
บาท ด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.prachachat.net